การแสดงผล (Display) การแสดงค่าของตัวแปร สามารถแสดงได้โดยใช้ฟังก์ชัน printf ( ) ตามรูปแบบ ดังนี้
ข้อความสำหรับจัดรูปแบบ (Format string) มีดังตาราง 4.1
ตาราง 4.1 ข้อความสำหรับจัดรูปแบบ
ตัวอย่าง เมื่อต้องการแสดงค่าของตัวแปลชื่อ Student_No ที่ประกาศไว้แบบ int เขียนประโยคคำสั่งได้ ดังนี้
ตัวอย่าง จากโปรแกรม Var_Declare-3.c เมื่อเพิ่มการแสดงค่าของตัวแปรทุกตัวทีละบรรทัด (ใช้ \n เพื่อขึ้นบรรทัดใหม่ด้วย) ดังภาพ 4-1 แล้วบันทึกเป็นโปรแกรม Var_Declare-6.c ภาพ 4-1 การแสดงค่าของตัวแปร
เมื่อให้โปรแกรมทำงานได้ผลดังภาพ 4-2 ภาพ 4-2 ผลของโปรแกรมแสดงค่าของตัวแปร
การแสดงผลข้อความประกอบกับการแสดงค่า จากผลที่ได้ของโปรแกรม Var_Declare-6.c (ภาพ 4-2) จะเห็นว่ามีผลแสดงออกมาหลายบรรทัด ซึ่งถ้าไม่ได้ดูโปรแกรมก็จะไม่ทราบเลยว่าแต่ละบรรทัดคือค่าของอะไรบ้าง ดังนั้นจึงควรมีข้อความประกอบเพิ่มเติมเข้าไปด้วย โดยสามารถเพิ่มได้ทั้งหน้าและหลังข้อความสำหรับจัดรูปแบบในส่วนแสดงผล ดังภาพ 4-3 ภาพ 4-3 การแสดงข้อความประกอบค่าของตัวแปร
เมื่อบันทึกเป็นโปรแกรม Var_Declare-8.c แล้วให้โปรแกรมทำงาน ได้ผลดังภาพ 4-4 ภาพ 4-4 การแสดงข้อความประกอบค่าของตัวแปร
การจัดตำแหน่งของการแสดงผล อาจจัดตำแหน่งของข้อความได้โดยการพิมพ์วรรคหรือใช้ \t เพื่อเว้นระยะแนวนอน (tab) เช่น ถ้าต้องการให้เครื่องหมาย = ตรงกัน ดังภาพ 4-5 ภาพ 4-5 โปรแกรมจัดตำแหน่งของการแสดงผล
การแสดงค่าของตัวแปรหลายตัวในบรรทัดเดียวกัน การแสดงค่าของตัวแปรหลายตัวในบรรทัดเดียวสามารถแสดงได้โดยใช้ข้อความสำหรับรูปแบบให้ตรงกับแบบข้อมูลของตัวแปรที่ใช้ ตามลำดับ ดังตัวอย่าง ผลที่ได้เป็นดังภาพ 4-6 ภาพ 4-6 การแสดงค่าของตัวแปรหลายตัว
การจัดระยะตำแหน่งของตัวเลขและการกำหนดจำนวนตัวเลขหลังจุดทศนิยม ในการแสดงค่าของข้อมูลแบบ float สามารถจัดระยะตำแหน่งของตัวเลขโดยกำหนดจำนวนระยะความกว้างของค่าตัวเลขและจำนวนตัวเลขหลังจุดทศนิยมเข้าไปหลัง % ของข้อความกำหนดรูปแบบ ดังนี้
ตัวเลข 1 ใช้สำหรับกำหนดระยะความกว้างทั้งหมดของค่าตัวเลขรวมทั้งจุดทศนิยม ตัวเลข 2 ใช้สำหรับกำหนดจำนวนตัวเลขหลังจุดทศนิยม
ตัวอย่าง “%10.2f” หมายถึง ระยะความกว้างของทั้งหมดของค่าตัวเลขเท่ากับ 10 และมีตัวเลขหลังจุดทศนิยม 2 ตำแหน่ง เมื่อใช้ในประโยคคำสั่งสำหรับแสดงผลได้ ดังนี้ printf (“123456789012345678901234567890\n”); // มีเว้นวรรค printf (“%10d %15d\n”, N, Sum); //มีวรรคระหว่าง d และ % ถ้าค่าของ N เท่ากับ 55 และค่าของ Sum เท่ากับ 3000 ผลที่ได้ก็จะเป็นดังรูป
เห็นได้ว่าค่าของ N อยู่ในระยะ 10 แล้วเว้น 1 ช่อง และค่าของ Sum อยู่ในระยะความกว้างของค่าข้อมูลเท่ากับ 15 โดยตัวเลขจะอยู่ชิดขวา ถ้าต้องการให้ตัวเลขอยู่ชิดซ้าย ให้เติมเครื่องหมายลบ (-) หลัง % ดังตัวอย่าง printf (“%10d %15d\n”, N, Sum); //มีวรรคระหว่าง d และ % ผลที่ได้ก็จะเป็นดังรูป
การแสดงผลของการคำนวณ ทำได้เช่นเดียวกับการแสดงค่าของตัวแปร ตัวอย่าง การเขียนโปรแกรมคำนวณหาพื้นที่ของรูปสามเหลี่ยม การทำงานของโปรแกรมเป็นดังนี้ - กำหนดค่าความยาวฐาน (Base) = 3 - กำหนดค่าความสูง (Height) = 5 - คำนวณหาพื้นที่ (Area) = 0.5 x ฐาน x สูง - แสดงผลลัพธ์ การรับค่าจากแป้นพิมพ์ จากโปรแกรมคำนวณหาพื้นที่ของรูปสามเหลี่ยม เห็นได้ว่าเป็นการกำหนดค่าไว้ในโปรแกรม เมื่อให้โปรแกรมทำงานกี่ครั้งก็ตามจะได้ผลลัพธ์เท่าเดิม ถ้าต้องการเปลี่ยนค่าใหม่ ก็ต้องไปแก้ไขในโปรแกรม จึงไม่สามารถนำไปใช้กับงานจริงได้ ดังนั้น ต้องเปลี่ยนการกำหนดค่า ให้เป็นการรับค่าจากแป้นพิมพ์โดยใช้ฟังก์ชัน scanf ( ) ตามรูปแบบ ดังนี้
ข้อความสำหรับจัดรูปแบบ (Format string) การใช้ scanf ( ) เพียงอย่างเดียว เมื่อโปรแกรมทำงานจะเห็นแต่เคอร์เซอร์กระพริบให้ป้อนค่าทางแป้นพิมพ์ ยิ่งถ้ามีการป้อนหลายค่าจะทำให้ผู้ใช้ไม่ทราบว่าต้องป้อนค่าใดก่อน ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ printf ( ) ก่อนเพื่อแสดงข้อความที่เป็นคำถาม เช่น “X = ” ในโปรแกรม Triangle.c สามารถเปลี่ยนการกำหนดค่าของตัวแปร Tri_Base และ Tri_Height เป็นการรับค่าได้ดังต่อไปนี้ * รับค่าความยาวฐาน เขียนประโยคคำสั่งได้ ดังนี้ Printf (“Base = ”); scanf (“%f”, &Tri_Base); * รับค่าส่วนสูง เขียนประโยคคำสั่งได้ ดังนี้ printf (“Height = ”); scanf (“%f”, & Tri_Height); |
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 > หน่วยที่ 2 ขั้นตอนการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น >